ดริปวิตามินดีอย่างไร ช่วยดูแลได้ทั้งสุขภาพและความงามจริงหรือ?
เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เจ็บป่วยง่าย ร่างกายไม่ฟิต ปัญหาสุขภาพจุกจิกที่อาจเป็นบ่อเกิดของโรคภัยและความร่วงโรยตามวัยของใครหลายคน การดูแลตัวเองด้วยการรับประทานวิตามินจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่นิยมใช้ เพื่อเติมสารอาหารให้ร่างกาย เร่งฟื้นฟูสุขภาพและคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับคืน มา แต่ทราบหรือไม่ว่าการรับประทานวิตามินนั้น สารอาหารอาจไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้แบบ 100% ปัจจุบันจึงมีทางเลือกใหม่คือการทำ Drip Vitamin ให้ร่างกายได้รับวิตามินแบบเต็ม ๆ
ดริปวิตามิน (Vitamin IV Drip) คืออะไร
ดริปวิตามิน (Drip Vitamin) หรือ IV Therapy มาจากคำว่า Intravenous Therapy คือการใช้วิตามินบำบัด โดยจะฉีดวิตามินผ่านทางหลอดเลือดดำเข้าสู่ร่างกาย สามารถช่วยฟื้นฟูสุขภาพและแก้ปัญหาผิวพรรณที่ขาดการบำรุงได้ ซึ่งวิธีการนี้ได้ผลค่อนข้างไวและมีความปลอดภัย ประกอบกับขั้นตอนการทำที่ไม่เจ็บ ไม่สนุกยาก คล้ายการนอนพักผ่อนสบาย ๆ หลายคนจึงนิยมเติมวิตามินด้วยวิธีการนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานที่มักฉีดวิตามินแก้อ่อนเพลีย เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดี
วิตามินผิวกับการดูแลสุขภาพ
เป็นที่ทราบกันดีว่า IV Drip คือตัวช่วยในการดูแลผิวพรรณให้มีสุขภาพดี กระจ่างใส ลดริ้วรอยและรอยแผลเป็น คล้ายการรับประทานวิตามินบำรุง แต่ที่มากไปกว่านั้นก็คือ ปัญหาผิวบางอย่างก็มีสาเหตุมาจากปัญหาสุขภาพ เช่น หวัด ภูมิแพ้ หรือการเสื่อมของร่างกายอย่างการสร้างคอลลาเจน ซึ่งการดริปวิตามินก็จะเข้าไปฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ลดต้นตอของโรค เพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ จึงเท่ากับว่าเราได้ดูแลผิวพรรณจากภายในร่างกายไปพร้อมกัน
การดริปวิตามิน แตกต่างกับการรับประทานวิตามินอย่างไร?
การรับวิตามินเข้าสู่ร่างกายทำได้หลายวิธี ทั้งการฉีดวิตามินเข้ากล้ามเนื้อ การอม การทาครีมเพื่อซึมซับลงสู่ชั้นผิว การรับประทาน และการดริปวิตามินเข้าทางหลอดเลือด ซึ่งจะต่างจากวิธีการยอดนิยมอย่างการรับประทานตรงที่การดริปวิตามินร่างกายสามารถนำวิตามินนั้นไปใช้ประโยชน์ได้ทันที ขณะที่การรับประทานต้องผ่านกระบวนการย่อย การดูดซึม ร่างกายก็จะได้รับวิตามินประมาณ 30-50% ของที่รับประทานเข้าไป และจะต้องรับประทานทุกวัน ขณะที่การดริปวิตามินทำแค่ 1 – 2 ครั้งต่อสัปดาห์ก็พอ ส่วนเรื่องการตกข้างในร่างกายก็ไม่ต้องกังวล เพราะทั้งการรับประทานและการดริปวิตามินจะไม่ตกค้างในร่างกาย และขับออกมาได้ทางปัสสาวะ
ดริปวิตามิน เหมาะกับใครบ้าง ?
- ชาวออฟฟิศที่โหมงานหนัก พักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาใส่ใจสุขภาพ และต้องการฉีดวิตามินแก้อ่อนเพลีย
- คนรักการปาร์ตี้ สังสรรค์ ดื่มหนัก นอนดึก อยากกู้สุขภาพให้กลับมาสมบูรณ์
- นักศึกษาเรียนหนัก ปั่นโปรเจคโต้รุ่ง จึงต้องการเรียกความฟิตให้แก่ร่างกาย
- ผู้ที่เริ่มมีสัญญาณของการขาดวิตามิน เช่น เบื่ออาการ ผิวแห้ง ผิวอักเสบ ผมหลุดร่วง เล็บเปราะบาง ปากแห้ง ปากเปื่อย
- ผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณ ชะลอวัย
- ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพ และต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าการรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริม
ข้อดีของการดูแลสุขภาพด้วยการดริปวิตามิน
- ช่วงสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
- ต่อต้านอนุมูลอิสระโดยตรง
- เพิ่มความฟิตให้ร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย
- บำรุงผิวพรรณให้สวย เรียบเนียน ดูผิวชุ่มชื่น ลดความหมองคล้ำ
- ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้กว่า 90% จึงเห็นผลเร็วและชัดเจน
- ลดการรับประทานอาหารเสริมปริมาณมากในทุกวัน อาจทำให้เสี่ยงสะสมในร่างกายด้วย
- Drip Vitamin มีหลายสูตร สามารถเลือกสูตรที่เหมาะกับร่างกายได้ ให้แค่ครั้งเดียวในรอบนั้น เทียบเท่าการกิน
- ไม่ต้องเสี่ยงวิตามินติดคอ นำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตได้หากช่วยไม่ทัน
ดริปวิตามินควรทำบ่อยแค่ไหน
ดริปวิตามินสามารถทำได้ตามต้องการ แต่จะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ โดยปกติจะทำสัปดาห์ละครั้งและเห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกในเรื่องความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการฉีดวิตามินแก้อ่อนเพลีย ส่วนเรื่องผิวพรรณจะเห็นผลหลังจากดริปวิตามินไปแล้ว 3 – 5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
วิตามินผิวเข้มข้น มีสูตรอะไรบ้าง? พร้อมตัวอย่างดริปวิตามินสูตรต่าง ๆ
การดริปวิตามิน หรือ IV Drip คือการเติมวิตามินเข้าสู่ร่างกายซึ่งคนส่วนมากจะคุ้นเคยกับการใช้เพื่อดูแลผิวพรรณ โดยสูตรสำหรับการบำรุงผิว เพิ่มความกระจ่างใส มีหลายสูตรดังนี้
- Skin Radiance Elixir: เติมความแข็งแรงของคอลลาเจน ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง แลดูอ่อนเยาว์
- Luminex: ลดจุดด่างดำและรอยแผลเป็น เผยผิวกระจ่างใส
- Aura Lift Essence: บำรุงผิวให้เปล่งประกาย เนียนนุ่ม พร้อมลดริ้วรอยที่ตามวัย
- Glow Cleanse Duo: ฟื้นฟูผิวให้เรียบเนียนและกระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวา
- Colla Renew: กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อฟื้นฟูผิว ทำให้ผิวดูกระชับ
นอกจากนี้ การดริปวิตามินยังช่วยฟื้นฟูสุขภาพในอีกหลายทาง ทั้งการช่วยขจัดสารพิษในร่างกาย เติมพลังงานสร้างความแข็งแกร่ง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยกตัวอย่าง R3 ก็มีสูตรดริปวิตามินเพื่อสุขภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว เช่น
สูตรดีท็อกซ์ ขจัดสารพิษ ฟื้นฟูการทำงานของตับและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย
- ChelaVitalize: ช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้างและลดความเสี่ยงจากพิษของโลหะหนักที่อาจเข้าสู่ร่างกาย
- Uric Guard Supreme: ลดระดับกรดยูริกในร่างกาย ลดความเสี่ยงเกิดโรคเกาต์และภาวะแทรกซ้อนเกี่ยวกับไต
- Liver Fortify Plus: ดูแลตับ เพื่อช่วยให้ขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Liver Pure Detox: ขับสารพิษ ลดการสะสมของไขมันในตับ และลดการเกาะตัวของไขมันในหลอดเลือด
สูตรสร้างเสริมสุขภาพ เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เติมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นเพื่อสุขภาพที่ดีเยี่ยม
- Antiox Dia Blend: ดริปวิตามินชะลอวัยและควบคุมการทำงานของอินซูลิน เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Myer's Revive: เสริมสร้างการพัฒนาทางร่างกายและสมอง รวมถึงสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
- Super C Boost: เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและแก้ปัญหาการขาดวิตามินซีในร่างกาย
- Kidney Rise: ช่วยฟื้นฟูร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น
- Slim Trim Catalyst: เร่งการเผาผลาญและเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ
- GutZen Blend: สร้างสมดุลในลำไส้ ซ่อมแซมผนังลำไส้ ลดการอักเสบ และเสริมความแข็งแรงให้ลำไส้
- Burn Fat Away: กระตุ้นการเผาผลาญไขมันให้เต็มประสิทธิภาพ
- Immun Osteo: เพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น
สูตรเพิ่มพลังงาน เพิ่มพลังงานเพื่อฟื้นฟูสมองและร่างกาย ให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและทนทานต่อความเหนื่อยล้า
- Muscle Ease Plus: บรรเทาอาการอ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง และลดการอักเสบในร่างกาย
- Immuno Max Formula: เสริมภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับความอ่อนล้าและฟื้นฟูร่างกายให้รู้สึกสดชื่น
- Ener Vive Formula: ฟื้นฟูและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน แก้ไขปัญหาการเสื่อมสภาพของระบบการทำงานในร่างกาย
- Stress OxiShield & Relief: ฟื้นฟูร่างกายที่เหนื่อยล้าจากความเครียดสะสม ขจัดของเสียและโลหะหนักที่ตกค้าง
- Brain Wave Enhance: เสริมประสิทธิภาพการทำงานและความจำของสมอง สนับสนุนสุขภาพสมองและการทำงานของสารสื่อประสาท พร้อมส่งเสริมการนอนหลับที่ดี
ดริปวิตามินแบบไหนที่เหมาะกับเรา
ดริปวิตามินมีหลายสูตร ทั้งเพื่อสุขภาพและผิวพรรณ ดังนั้นการเลือกวิตามินที่เหมาะกับเราก่อนอื่นควรถามตัวเองก่อนว่าเราต้องการเพิ่มการดูแลตัวเองในด้านใด หวังผลลัพธ์แบบใด แล้วเลือกรับบริการจากผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือ มีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำและคัดกรองก่อนรับวิตามิน
ข้อควรรู้ก่อนฉีดวิตามินหรือดริปวิตามิน
- การดริปวิตามินจะต้องรับบริการจากผู้ให้บริการที่มีมาตรฐานในหลาย ๆ ด้าน เช่น แพทย์ที่จะช่วยดูแลการผสมวิตามิน พยาบาลวิชาชีพที่จะเจาะเส้นเลือดให้ อุปกรณ์ฉีกใหม่ทุกอย่าง ผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดี เครื่องช่วยให้สารน้ำในอัตราคงที่ รวมถึงสภาพห้องดริปวิตามินที่สะอาด ปลอดภัย มีคนคอยดูแลอยู่ตลอด เพราะหากมองแค่ราคา นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีของวิตามินที่ดริปไป ยังจะไม่คุ้มค่ากับผลที่จะตามมา เช่น คลื่นไส้ วิงเวียน หน้ามือ ความดันต่ำ ช็อก หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต
- แม้ว่าเราสามารถฉีดวิตามินได้บ่อยตามต้องการ แต่หากบ่อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวหรือเจ็บป่วย แนะนำให้รับการรักษาอย่างถูกต้องด้วย เพราะการฉีดวิตามินไม่สามารถช่วยรักษาโรคได้ แต่ช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
การเตรียมตัวก่อนดริปวิตามิน
ก่อนการดริปวิตามินจะต้องมีการพบแพทย์เพื่อประเมินร่างกาย สิ่งสำคัญก็คือการแจ้งโรคประจำตัว ประวัติสุขภาพ หรือวิตามินและยาที่ใช้ประจำให้แพทย์ทราบทุกครั้ง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงจากการดริปวิตามิน
ขั้นตอนการดริปวิตามิน
- ปรึกษากับทีมแพทย์ สำหรับข้อที่กังวลใจ หรือสิ่งที่ต้องการ รวมถึงการนำข้อมูลผลการตรวจสุขภาพมาร่วมพิจารณาออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลให้เหมาะสม (personalized treatment) เพราะเราเชื่อว่า แต่ละคนมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลที่แตกต่างกัน
- แพทย์อาจจะขอชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง โดยจะมีการอุณหภูมิของร่างกาย ความดันโลหิต และชีพจร เพื่อคำนวนปริมาณและความเข้มข้นของวิตามินที่จะได้รับ ทั้งนี้สำหรับวิตามินบางประเภท มีปริมาณจำกัดในการรับตามแต่ละบุคคล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดคลินิกควรมีเครื่องช่วยวัดปริมาณที่ร่างกายแต่ละคนรับได้ เช่น G6PD วัดก่อนการรับวิตามินซีความเข้มข้นสูง, heart health attack ดูค่าการอักเสบของร่างกาย หรือ Universe health check ดูค่าไต สำหรับการดริปวิตามิน Chelation เป็นต้น
- เข้ารับวิตามินในสถานที่ที่เตรียมไว้ ซึ่งมักเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เป็นส่วนตัว หรืออย่าง R3 Life ที่มีห้องส่วนตัวสำหรับรับบริการพร้อมกันในครอบครัว มีเอ็นเตอเทนเมนต์ให้ทุกคนได้ใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน ทำให้เปิดประสบการณ์การดริปวิตามินที่ไม่เหมือนใคร
การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน
แม้ว่าการดริปวิตามินจะเป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่ร่างกายโดยตรง แต่เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและคงอยู่ยาวนานขึ้น โดยวิตามินสูตรปกติส่วนใหญ่ควรดูแลตัวเองตามข้อแนะนำต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้สารอาหารครบถ้วน
- ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอในแต่ละวัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อกระตุ้นระบบเผาผลาญ และให้ร่างกายคงความแข็งแรงดังเดิม
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- หากดริปวิตามินเพื่อช่วยเรื่องผิวพรรณ แนะนำให้งดสัมผัสแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ รวมทั้งเติมความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยการทาครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ
การดริปวิตามินถือเป็นทางลัดในการเติมเต็มสุขภาพและความงามให้สดใสจากภายในสู่ภายนอก แต่อย่าลืมว่าการดริปวิตามินไม่ใช่การรักษาโรค หรือทดแทนการทำหัตถการดูแลผิวหน้าชั้นลึกหรือยกกระชับได้ หากใครที่มีความต้องการเฉพาะ แนะนำให้ปรึกษาทีมแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยที่สามารถแนะนำให้ได้ จากคลินิกที่มีมาตรฐาน ไม่ฮาร์ดเซลล์ คำนึงถึงผลลัพธ์และความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสำคัญ รวมถึงมีบริการครอบคลุมทั้งเรื่องสุขภาพและความงาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบ