สเต็มเซลล์หน้าใส วิธีกู้คืนผิวแข็งแรงทันใจ
ฉีดสเต็มเซลล์ให้ผิวหน้าอ่อนกว่าวัย ชะลอความเสื่อมในระดับเซลล์

ปัญหาผิวพรรณที่มาพร้อมกับวัย 40+ หลายคนเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณความร่วงโรยของผิวชัดขึ้น! ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องแก้มลึก ผิวแห้งเป็นขุย และความหมองคล้ำที่แก้ได้ยาก อีกทั้งปัจจัยจากมลภาวะและความเครียดในชีวิตประจำวันยังเร่งให้ผิวเสื่อมโทรมเร็วขึ้น การดูแลผิวหน้าด้วยการการฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส (Stem Cell) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการฟื้นฟูเซลล์ผิวจากภายในที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวอย่างเห็นผล
ส่องสาเหตุของผิวเสื่อมสภาพ ต้นตอปัญหาผิวที่จัดการได้ยาก
เพราะปัญหาผิวแก้ยากที่ปล่อยไว้นานอาจทำให้ผิวหน้าแย่ลงเรื่อยๆ ทั้งริ้วรอย ร่องแก้มลึก ผิวหน้าหย่อนคล้อย ผิวแห้งกร้าน ฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยเฉพาะในช่วงวัยแห่ง 40+ ที่เริ่มเห็นปัญหาเหล่านี้ชัดเจนขึ้น ซึ่งปัจจัยการเกิดมาจากทั้งภายนอกและภายใน ดังนี้


ฉีดสเต็มเซลล์เฉพาะจุด เพิ่มเซลล์อ่อน บอกลาเซลล์แก่
1. ประเภทของสเต็มเซลล์ที่ใช้กับผิวหน้า
เรามักได้ยินเรื่องของสเต็มเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับความงามและถูกนำมาใช้ในการชะลอวัย (Anti-Aging) เป็นส่วนใหญ่ โดยการใช้สเต็มเซลล์ชนิดที่มีเซนไคม์ MSC หรือสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ (Cord Tissue Mesenchymal Stem Cell) และสเต็มเซลล์จากเยื่อหุ้มรก (Amniotic Tissue Mesenchymal Stem Cell ) ซึ่งเป็นสเต็มเซลล์ชนิดที่มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้า ช่วยให้ดูสดใสและอ่อนกว่าวัย
2. ฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส ช่วยกู้คืนผิวแข็งแรงได้ยังไง ?
ความแก่ของผิวเกิดจากความเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวเก่า เซลล์ถูกทำลายมากกว่าถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้เสียความสมดุลภายในชั้นผิว การฉีดสเต็มเซลล์ (Stem Cell) เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์อ่อนที่ “สามารถแบ่งตัวได้อย่างไม่จำกัด” การฉีดสเต็มเซลล์ที่ผิวหน้าจึงเปรียบเสมือนกับการใช้ทางลัดของการสร้างเซลล์ใหม่ เพื่อให้เซลล์อ่อนเหล่านี้เข้าไปทดแทนและซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์แก่ ทำให้จัดการปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด
สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องปัญหาผิวและต้องการฟื้นฟูสภาพผิวให้ลึกถึงชั้นเซลล์ผิว อยากมีผิวสวย ดูสุขภาพดี และต้องการคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวในระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวในวัย 40+ ที่เซลล์ชั้นใต้ผิวเริ่มเสื่อมสภาพ การฉีดเสต็มเซลล์ผิวหน้าจึงเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ของการฉีดสเต็มเซลล์หน้าใสเพื่อฟื้นฟูผิวหน้า อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนี้
- แก้ปัญหาริ้วรอย
- ลดรอยแผลเป็น
- จุดด่างดำ
- ลดฝ้า กระ
- ลดการสร้างเม็ดสี
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- แบ่งตัวสร้างเซลล์ใหม่ๆ ขึ้นมาทดแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ
- สร้างหลอดเลือดและเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้การไหลเวียนเลือดเข้าสู่ผิวดีขึ้น
- ผิวมีความชุ่มชื้น กระชับ และเต่งตึงขึ้น
วิธีดูแลผิวหลังการฉีดสเต็มเซลล์หน้าใส
- งดทำเลเซอร์ ทรีตเมนท์ และการอบซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดใช้ครีมและเครื่องสำอางทุกชนิดบริเวณที่ฉีดอย่างน้อย 1 วัน
- หลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวโดนแดดหรือมลภาวะต่างๆ โดยตรงเป็นเวลา 3-7 วัน
- หลังฉีดสเต็มเซลล์ควรประคบเย็นใน 24 ชม.แรก เพื่อลดอาการบวมช้ำ
- งดอาหารทอดและอาหารมันหลังฉีด 2-3 วัน
การฉีดสเต็มเซลล์ควรอยู่ภายใต้การดูแลโดยทีมแพทย์ดีกรีอเมริกันบอร์ดด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) และได้รับการรองรับจากสมาคมเซลล์บำบัดแห่งประเทศไทย โดยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวก่อน จากนั้นจะให้คำแนะนำและกำหนดปริมาณสเต็มเซลล์สำหรับใช้ในการฉีด ที่ R3 Life Wellness Center เราเลือกใช้ MSC Stem Cell ที่ผ่านการคัดกรองโดย Lab ที่ได้มาตรฐานคุณภาพระดับโลก และตรวจสอบความปลอดเชื้อก่อนนํามาใช้ทุกครั้ง สามารถเข้ารับคำปรึกษาและบริการได้ตลอดระยะเวลาทำการ
รายละเอียด STEM CELL THERAPY คลิก