PRP คืออะไร ทำไมจึงเลือกใช้เพื่อชะลอวัยและแก้ปัญหาสุขภาพ
นวัตกรรมการแพทย์ในปัจจุบันก้าวหน้าไปมาก อาการเจ็บป่วยบางอย่างที่เคยรักษายาก หรือต้องได้รับการผ่าตัดก็สามารถรักษาได้ด้วยวิธีที่ง่ายขึ้นและปลอดภัย อย่างเช่นการฉีด PRP ซึ่งเป็นการนำเกล็ดเลือดของตัวเองมาใช้ในการฟื้นฟูร่างกาย ก็จัดเป็นหนึ่งในกระบวนการรักษาที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง เพราะช่วยได้ทั้งเรื่องสุขภาพ ลดอาการบาดเจ็บ และนำไปใช้เพื่อการชะลอวัย
PRP คืออะไร
PLATELET RICH PLASMA หรือ PRP คือการบำบัดรักษาโดยนำเลือดมาผ่านกระบวนการ ทั้งการปั่นและคัดแยกชั้นของพลาสมา (Plasma) จนได้เกล็ดเลือดที่เข้มข้นที่สุด เรียกว่า Rich Plasma ที่อุดมไปด้วย Growth Factor เป็นกลุ่มโปรตีนในร่างกาย ทำหน้าที่กระตุ้นสเต็มเซลล์ให้สร้างเนื้อเยื่อใหม่ และยังกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts หรือเซลล์สร้างคอลลาเจน Endothelial cell หรือเซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือด และยังมีสารอาหาร วิตามิน เกลือแร่ และฮอร์โมนด้วย เมื่อได้พลาสมาจากกระบวนการปั่นแยกชั้นแล้ว จึงนำพลาสมานั้นฉีดกลับเข้าไปที่บริเวณที่ต้องการฟื้นฟูรักษา
การฉีด PRP คือการกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ เพื่อซ่อมแซมในส่วนที่มีปัญหา ผลจากการฉีด PRP ส่วนมากพบว่าสามารถเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ได้ไวขึ้น 50% จากกลไกปกติ การรักษาด้วยการฉีด PRP มักใช้กับการบำบัดอาการปวด หรือการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็น และใช้เพื่อการชะลอวัย ฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ
PRP กับการชะลอวัย
ในด้านการชะลอวัย PRP คือหัวใจสำคัญของการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย หรือต้องเผชิญกับมลภาวะจนร่วงโรยตามกาลเวลา สังเกตได้จากริ้วรอย ความเหี่ยวย่น และย่อนคล้อย PRP จะเข้าไปฟื้นฟูให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์อีกครั้ง
นอกจากนี้ หลายคนยังเรียกการบำบัดด้วยการฉีดพลาสมาว่า PRP หน้าใส เพราะ PRP เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ที่ไม่เพียงลดเลือนริ้วรอย แต่ยังเข้าไปลดเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส และยังช่วยลดลอยคล้ำใต้ตา รอยแผลเป็น รวมทั้งแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางที่เกิดขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น
ฉีด PRP มีผลข้างเคียงไหม
ทั้งการฉีด PRP เพื่อบำบัดอาการบาดเจ็บ และการทำ PRP หน้าใส อ่อนวัย แทบจะไม่มีผลข้างเคียง หรือมีโอกาสเกิดอาการแพ้ได้น้อยมาก เพราะ PRP คือเกล็ดเลือดของผู้ใช้บริการเอง ไม่ใช่การฉีดสารสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกาย จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย
PRP เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ หรืออาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ข้อ กระดูก
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย ด้วยการลดริ้วรอยบนใบหน้า เติมความกระชับให้ผิว
- ผู้ที่ต้องการทำ PRP หน้าใส ลดรอยดำ รอยสิว หรือบำรุงผิวให้แข็งแรง
- ผู้ที่มีปัญหาเส้นผม ชะลอการขาดร่วง สร้างเซลล์รากผมให้แข็งแรง
การเตรียมตัวก่อนฉีด PRP
สำหรับผู้ที่เตรียมฉีด PRP มีคำแนะนำเบื้องต้นก่อนฉีด PRP ดังนี้
- ดื่มน้ำมาก ๆ โดยเฉพาะช่วง 2-3 วันก่อนฉีด PRP ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 ลิตรต่อวัน
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วัน
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อย่างน้อย 1 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมง
ควรฉีด PRP บ่อยแค่ไหน และจะเห็นผลในกี่วัน
การฉีด PRP จะเห็นผลชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์นับจากการฉีดครั้งแรก โดยเฉพาะ PRP หน้าใส จะพบว่าสภาพผิวเริ่มเปลี่ยนแปลงทีละนิดจนรู้สึกได้ แนะนำให้ฉีด PRP ซ้ำ 2-3 ครั้ง เว้นระยะห่าง 2-4 สัปดาห์ จะได้ประสิทธิภาพสูงสุด ระยะเวลาเห็นผลลัพธ์ที่ดีของ PRP หน้าใสขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลตัวเองของแต่ละคน
ผลลัพธ์ของการฉีด PRP เพื่อการชะลอวัย
ผลลัพธ์ที่โดดเด่นของการฉีด PRP หน้าใส คือการฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และทำให้ดูอ่อนเยาว์ หลังฉีด PRP จะพบความเปลี่ยนแปลงดังนี้
- ผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง
- ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย เติมร่องลึก เร่งการเกิดเซลล์ผิวใหม่
- หน้าใส เปล่งปลั่ง สิว ฝ้า กระ รอยดำ รอยแดงจางลง
การดูแลตัวเองหลังฉีด PRP
เมื่อฉีด PRP หน้าใสแล้ว แนะนำให้ดูแลตัวเองตามขั้นตอนต่อไปนี้
- งดล้างหน้าหลังทำเสร็จทันที ควรรอประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้รูเข็มจากการฉีดปิดก่อน
- งดทาครีมบำรุงที่มีสรรพคุณในการผลัดเซลล์ผิว หรือเร่งผิวขาว
- ควรทาครีมบำรุงที่เน้นมอยเจอร์ไรเซอร์ให้ความชุ่มชื้น คู่กับการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมที่ต้องโดนแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์
- หลังจากฉีด PRP หน้าใสอาจมีรอยแดงเป็นจ้ำบนในหน้าและผิวลอก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรแกะ เกา บริเวณที่ผิวลอกออก
การฉีด PRP ให้ผลลัพธ์ที่ดีทั้งด้านบำบัดอาการบาดเจ็บและการชะลอวัย เพราะทำให้ร่างกายได้รับการฟื้นฟูอย่างตรงจุด สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้เต็มที่ แต่อย่างไรก็ดี การฉีด PRP คือการนำเลือดมาปั่นจนได้เกล็ดเลือดที่เข้มข้น ซึ่งเกล็ดเลือดของแต่ละคนจะมี Growth Factor มากน้อยไม่เท่ากัน การเลือกคลินิกผู้ให้บริการจึงสำคัญมาก
R3 Life wellness Center พร้อมดูแลการทำ PRP ตลอดกระบวนการ ด้วยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ และพยาบาลวิชาชีพ สถานที่ที่สะดวกสบาย และบริการที่ดีเยี่ยม ประกอบกับเครื่องมือในการดูแลที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ใช้เลือดในปริมาณน้อยกว่า แต่สามารถปั่นแยกชั้นไขมัน พลาสม่า ไปจนถึง Growth Factor ได้ และจะทำการรักษาต่อเมื่อ Growth Factor ของผู้รับการรักษามีปริมาณมากพอเท่านั้น เพื่อประสิทธิภาพในการรักษา และผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ผู้รับบริการจึงมั่นใจได้ เมื่อมาฉีด PRP ที่ R3 Life wellness Center