ALA คืออะไร? รู้จักสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยคงความอ่อนวัย

อัลฟา ไลโปอิก แอซิด (Alpha-lipoic acid) หรือ ALA คือสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้ ก่อนจะค่อยๆ เสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติ ในขณะที่ร่างกายของเรากำลังผลิตอนุมูลอิสระ (Free Radical) อยู่ตลอดเวลาจากไลฟ์สไตล์ที่ขาดประสิทธิภาพเช่นทุกวันนี้ ชวนทำความรู้จักการดริป ALA ให้ร่างกาย ตัวช่วยบูสท์สารต้านอนุมูลอิสระเพื่อคนยุคใหม่ไปด้วยกัน!
ALA สารต้านอนุมูลอิสระเข้มข้น มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง ?
ได้ทราบกันแล้วว่า ALA คืออะไร ต่อไปเราจะพามารู้จักกับประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับจาก ALA เนื่องจาก ALA มีจุดเด่นกว่าสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เพราะสามารถละลายได้ทั้งในน้ำและไขมัน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ผ่านเข้าสู่เซลล์ต่างๆ รวมถึงเซลล์เยื่อหุ้มสมองและประสาทได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีส่วนช่วยในด้านอื่นหลักๆ อาทิ
- เสริมการทำงานสารต้านอนุมูลอิสระ ALA มีส่วนสำคัญของการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เพื่อใช้กำจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย นอกจากนี้ ALA ยังเข้าไปช่วยซ่อมแซมสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น วิตามินซี วิตามินอี โคคิวเทน ฯลฯ ให้กลับมาทำงานต้านอนุมูลอิสระได้ใหม่อีกครั้ง จึงช่วยลดปัญหาการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และจุดด่างดำต่างๆ
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ประโยชน์ที่เด่นชัดของ ALA คือ เรื่องของการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้คงที่ โดยจะเข้าไปช่วยให้อินซูลินทำงานดีขึ้น ช่วยควบคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น จึงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีความเสี่ยงเบาหวาน และผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วยการใช้ควบคู่ไปกับอินซูลิน เพื่อช่วยควบคุมปริมาณอินซูลินและทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ช่วยลดการดื้ออินซูลินและการใช้ยาในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้อีกด้วย
- ต้านการอักเสบ ช่วยขับโลหะหนัก ALA ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของตับกระตุ้นให้ตับขจัดของเสีย และโลหะหนักที่เป็นพิษออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง

ดริป ALA ตัวช่วยคงความอ่อนวัย เหมาะกับใครบ้าง ?
จะเห็นว่า ALA คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติโดดเด่นมากมาย ทั้งช่วยต้านการอักเสบภายในร่างกาย ช่วยฟื้นฟูสารต้านอนุมูลอินสะอื่นๆ ให้กลับมาทำงานได้ใหม่ ทั้งยังคอยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในกลุ่มโรคเบาหวานด้วยได้ การดริป ALA จึงเป็นประโยชน์สำหรับ
- ผู้ที่มีปัญหาผิวพรรณ ริ้วรอยก่อนวัย/ ตามวัย
- ผู้ที่ต้องการชะลอวัย
- ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงโรคเบาหวาน หรือมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง
- ผู้ที่ต้องการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
โดยเราสามารถทำ ALA ร่วมกับวิตามินซี วิตามินอี กลูต้าไธโอน และโคเอ็นไซม์คิว 10 ในการบูสท์สารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆ ให้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง โดยแนะนำให้ทำอย่างน้อยทุก 2 สัปดาห์ ภายใต้ความดูแลและคำแนะนำจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย สำหรับใครที่มีข้อสงสัย หรือกังวลว่าสามารถทำ ALA ได้หรือไม่ สามารถนัดปรึกษากับแพทย์ที่ R3 Life Wellness Center ได้ก่อนเข้ารับบริการ Superior Antioxidant ซึ่งเป็นการเติม ALA ผ่านวิธีการ IV Drip ที่ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ได้ทันที
รายละเอียด Superior Antioxidant คลิก