รักษามะเร็งอย่างถูกวิธี เพิ่มโอกาสหายขาดได้จริง

Knowledge
|

รักษามะเร็งถูกวิธี เพิ่มโอกาสหายขาดดียิ่งขึ้น

อาการโรคมะเร็งมีอะไรบ้าง

มะเร็งถือเป็นโรคร้ายที่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนทั่วโลกและยังเป็นหนึ่งในปัญหาด้านสาธารณสุขของทุกประเทศด้วยอัตราการเสียชีวิตที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี การทำความเข้าใจในตัวโรค อาการของโรค วิธีรักษา ไปจนถึงการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทั้งตัวผู้ป่วยเองและครอบครัวต้องใส่ใจ เพื่อเลือกวิธีการรักษาโรคมะเร็งได้อย่างเหมาะสม ในวันที่ตัวเราหรือครอบครัว อาจต้องเผชิญกับโรคร้ายนี้

ทำไมถึงเป็นมะเร็ง

โดยทั่วไป มนุษย์ทุกคนจะมีเซลล์ที่ผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย แต่จะถูกระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายตรวจจับและกำจัดเสียก่อนที่จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง แต่หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ หรืออาจมีเซลล์ที่ผิดปกติบางชนิด สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับของระบบภูมิคุ้มกัน ก็จะส่งผลให้เกิดเป็นมะเร็งขึ้นได้

รู้จักโรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง คือ โรคที่เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติของเซลล์ สามารถเกิดขึ้นได้ตามอวัยวะต่างๆ โรคมะเร็งมีหลายชนิดขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เป็นจุดกำเนิดและชนิดของเซลล์มะเร็งนั้นๆ โดยมะเร็งสามารถแพร่กระจายและลุกลามผ่านทางระบบเลือดหรือระบบทางเดินน้ำเหลืองไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้ 

สาเหตุโรคมะเร็ง

  • อายุที่เพิ่มขึ้น มีผลต่อโอกาสเกิดมะเร็งที่มากขึ้น
  • การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การมีโภชนาการไม่เหมาะสม และการไม่ออกกำลังกาย
  • การได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจน สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านม
  • การได้รับแสงแดด หรือแสงอัลตร้าไวโอเลต (UV)
  • การใช้หรือสัมผัสกับสารเคมีเป็นประจำ
  • การได้รับรังสี เช่น เอกซเรย์ นิวเคลียร์ แก๊สเรดอน ในปริมาณที่สูงเกินเกณฑ์ สัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งลูคีเมีย มะเร็งไทรอยค์ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด และมะเร็งกระเพาะอาหาร
  • การติดเชื้อไวรัส และเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
  • มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเป็นมะเร็ง มะเร็งบางชนิดสัมพันธ์กับความผิดปกติของสารพันธุกรรม

10 สัญญาณอันตราย บ่งชี้มะเร็งกำลังถามหา

มาดูสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่า นี่อาจเป็นอาการโรคมะเร็ง เพื่อสำรวจตัวเองและครอบครัวกัน

  1. ตรวจพบก้อนเนื้อเกิดขึ้นในร่างกาย เช่น ในเต้านม หรือส่วนใดๆ ของร่างกาย
  2. เกิดอาการปวดอย่างไร้สาเหตุ โดยอาการปวดเรื้อรัง อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งกระดูก มะเร็งรังไข่
  3. มีไฝเกิดขึ้นใหม่ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไฝเดิม เช่น ใหญ่ขึ้น คัน แตกเป็นแผล มีเลือดออก
  4. น้ำหนักตัวลดลงมาก โดยไม่มีสาเหตุอันควร
  5. มีอาการไอเรื้อรัง เสียงแหบ
  6. กลืนอาหารลำบาก กลืนติด กลืนเจ็บ อิ่มเร็ว คลื่นไส้ อาเจียน
  7. มีความผิดปกติของระบบย่อยอาหาร
  8. ระบบขับถ่ายแปรปรวน มีความผิดปกติในกระเพาะปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะปนเลือด ถ่ายอุจจาระลำเล็กลง อุจจาระลำบาก อุจจาระปนเลือด ปวดหน่วงที่ทวารหนักเวลาขับถ่าย
  9. มีแผลเรื้อรัง
  10. มีเลือดออก เช่น อุจจาระหรือปัสสาวะปนเลือด ในผู้หญิงอาจมีเลือดออกจากช่องคลอด

อย่างไรก็ตาม อาจมีมะเร็งบางชนิดที่ไม่แสดงความผิดปกติใดๆ วิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเพื่อหาความผิดปกติก่อนที่จะแสดงอาการ ช่วยให้ตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ทำให้รักษาได้ทันท่วงที เพิ่มโอกาสในการหายขาดได้

ภูมิคุ้มกันบำบัด วิธีรักษาโรคมะเร็ง

โรคมะเร็งที่พบบ่อย

ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน มาดู 5 อันดับโรคมะเร็งที่พบบ่อยทั้งในเพศชายและหญิงว่ามีอะไรบ้าง

  • มะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
  • มะเร็งที่พบบ่อยในเพศหญิง ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก

เข้าใจการรักษามะเร็งแต่ละระยะ

วิธีรักษาโรคมะเร็งในแต่ละระยะนั้น มีความแตกต่างกัน การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการตรวจเพิ่มอย่างเหมาะสม จึงมีความสำคัญต่อผู้ป่วยเป็นอย่างมาก เพื่อให้การรักษาดำเนินไปได้ตามเป้าหมาย

  • ผู้ป่วยมะเร็งในระยะแรก มะเร็งจะยังอยู่เฉพาะที่ ไม่มีการลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียง จึงสามารถรักษาด้วยวิธีผ่าตัดได้
  • ผู้ป่วยมะเร็งในระยะแพร่กระจาย วิธีรักษาโรคมะเร็งในระยะนี้ จะทำเพื่อลดจำนวนเซลล์มะเร็ง และควบคุมก้อนมะเร็งให้ยุบลง ไม่ลุกลาม แล้วจึงผ่าตัดรักษา
  • ผู้ป่วยมะเร็งในระยะลุกลามมาก เป้าหมายของการรักษาโรคมะเร็งในระยะนี้ คือการยับยั้งจำนวนเซลล์มะเร็ง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตได้ดีขึ้นและยืนยาวขึ้น

โรคมะเร็ง รักษาแบบไหนได้บ้าง

วิธีการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันนั้นมีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ข้อจำกัด รวมถึงการมุ่งเป้าหมายในการรักษาที่แตกต่างกัน

  1. รักษาด้วยการผ่าตัด (Surgery) คือ การผ่าตัดเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็งด้วยเทคนิคต่างๆ เช่น การผ่าตัดทั่วไป การผ่าตัดส่องกล้อง การผ่าตัดโดยใช้ความเย็น การผ่าตัดด้วยเลเซอร์ การผ่าตัดด้วยคลื่นวิทยุเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง การผ่าตัดโดยใช้ความร้อน การรักษาด้วยแสง
  2. รักษาด้วยรังสีรักษา (Radiotherapy) คือ การใช้รังสีรักษาไปทำลายเซลล์มะเร็งเฉพาะตำแหน่ง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ การฉายแสงหรือฉายรังสีจากภายนอกผ่านผิวหนังไปยังตำแหน่งที่ต้องการ และการฝังแร่หรือทานยา ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดรังสีเข้าไปโดยตรง เพื่อให้แร่หรือยาเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็ง
  3. รักษาด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือการทำคีโม คือ การใช้ยาเข้าไปหยุดหรือชะลอการเติบโตของเซลล์มะเร็ง มักทำร่วมกับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น ใช้ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า หรือใช้รังสีรักษา
  4. รักษาโดยใช้ยาฮอร์โมนบำบัด (Hormonal Therapy) เพื่อยับยั้งการทำงานในเซลล์ผ่านตัวรับฮอร์โมน หรือผ่านเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมน มักใช้รักษาในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม และมะเร็งต่อมลูกหมาก
  5. รักษาด้วยยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (Targeted Cell Therapy) เป็นการรักษาแบบใช้ยาจำเพาะเจาะจง เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง โดยอาจไปจับกับเป้าหมายที่อยู่ภายนอกเซลล์ บนผิวเซลล์ หรือผ่านเข้าไปในผนังเซลล์ เพื่อจับกับเป้าหมายภายใน
  6. รักษามะเร็งเฉพาะจุด เป็นการรักษาโดยใช้อุปกรณ์จี้ทำลายก้อนมะเร็งด้วยความร้อน หรือใช้การฉีดยาเพื่ออุดเส้นเลือดที่เลี้ยงก้อนมะเร็ง
  7. รักษาโดยการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิด คือ การเพิ่มเซลล์ที่นำไปสร้างเซลล์เม็ดเลือดและภูมิคุ้มกันใหม่ให้แก่ร่างกาย

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งเบื้องต้น เมื่อเกิดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด

การรักษามะเร็งด้วยเคมีบำบัดอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายของผู้ป่วย ซึ่งอาจจะเกิดจากตัวโรคและการบำบัดรักษาโรค อย่างไรก็ตาม การดูแลที่เหมาะสมสามารถช่วยบรรเทาความไม่สบายตัวและลดความรุนแรงของอาการเหล่านี้ได้ ผู้ป่วยและผู้ดูแลสามารถรับมือกับอาการที่พบบ่อยจากเคมีบำบัดได้ดังนี้

  • ผมร่วง                                 สระผมด้วยแชมพูเด็ก สวมหมวกไหมพรมเมื่อรู้สึกเย็นที่ศีรษะ
  • คลื่นไส้ อาเจียน                     ทานอาหารที่ย่อยง่าย หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด
  • ทานอาหารได้น้อยลง  ทานอาหารเสริมทางการแพทย์
  • ช่องปากอักเสบ                      บ้วนปากอย่างน้อย 4 ครั้ง/วัน ด้วยน้ำเกลือ
  • ผิวหนังคล้ำ/เล็บคล้ำ               หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดนานๆ ตัดเล็บให้สั้น
  • ฝ่ามือ/ฝ่าเท้าอักเสบ                ทาครีมที่ทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น หลีกเลี่ยงการเสียดสีของฝ่ามือ ฝ่าเท้า
  • ชาปลายมือ/ปลายเท้า เลี่ยงการใช้ของมีคม เลี่ยงการสัมผัสของเย็นหรือของร้อน

รักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด

ปัจจุบันมีวิธีรักษาโรคมะเร็งทางเลือกที่กำลังได้รับความนิยม คือ รักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) เป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เพื่อให้สามารถเข้าทำลายเซลล์แปลกปลอมหรือเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันมีงานวิจัยที่รับรองผลการรักษาด้วยวิธีนี้ถูกเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง เพราะตอบสนองต่อการรักษามะเร็งในระยะยาวได้ดี และมีผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด

นวัตกรรม NK Cell ทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคมะเร็ง

การรักษาโรคมะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดมีหลายวิธี แต่หนึ่งในวิธีที่กำลังแพร่หลายคือ NK Cells Therapy เป็นการเพิ่มจำนวนและเสริมประสิทธิภาพให้ NK Cell แข็งแรง เพื่อไปต่อสู้และกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติและเซลล์มะเร็ง ปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียง ผู้ที่ควรใช้ NK Cell ร่วมกับการรักษาโรคมะเร็ง ได้แก่

  • ผู้ที่กำลังมองหาแพทย์ทางเลือกในการรักษาโรคมะเร็ง
  • ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ หรือผลข้างเคียงจากการทำคีโมและฉายแสง
  • ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย ติดเชื้อบ่อย

ข้อดีของการใช้ NK Cells Therapy

NK Cell Therapy หรือการรักษาด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันธรรมชาติ (Natural Killer Cells) เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง โดยมีบทบาทสำคัญในการกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างตรงจุด ที่สำคัญคือ ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งเท่านั้น แต่ยังช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย

หนึ่งในข้อดีที่โดดเด่นของ NK Cells Therapy คือความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงหรืออาการแพ้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่กำลังรักษาโรคและผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสุขภาพเชิงป้องกัน เพราะการมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนเกราะป้องกันชั้นเยี่ยมที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคร้ายในระยะยาว

นอกจากนี้ Ozone Therapy ยังเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกัน โดยการเติมออกซิเจนเข้มข้นเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเนื้อเยื่อและเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดเชื้อโรคและเซลล์ผิดปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำ Ozone Therapy ยังช่วยส่งเสริมการทำงานของ NK Cell ให้สามารถต่อสู้กับโรคได้ดียิ่งขึ้น และยังสามารถใช้ควบคู่กับวิธีการรักษาอื่น ๆ เช่น การผ่าตัดหรือการฉายรังสี เพื่อลดการใช้เคมีบำบัดให้น้อยที่สุด และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 

R3 Life Wellness Center พร้อมให้บริการ NK Cells Therapy ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine (ABAARM) และทีมพยาบาลวิชาชีพมากประสบการณ์ ศูนย์ของเรามีพันธมิตรห้องปฏิบัติการที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล เช่น UK NEQAS, NEBB Clean Room Class 100, ISO CLASS 5, ISO 15189 และ ISO 15190 อีกทั้งยังเป็นห้องปฏิบัติการแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้ เทคโนโลยี Flow Cytometry สำหรับการตรวจ NK Cell ทำให้มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์ที่แม่นยำและปลอดภัยที่สุดจาก R3 Life Wellness Center ซึ่งพัฒนาจากความเชี่ยวชาญระดับนานาชาติ และในส่วนของคลินิกเราเองก็ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกด้านการจัดการธนาคารชีวภาพ

มะเร็งคือโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนนับไม่ถ้วน และบ่อยครั้งกว่าจะรู้ตัว อาการของมะเร็งก็แทบจะเข้าสู่ระยะสุดท้ายแล้ว การตรวจสุขภาพประจำปีและการตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างละเอียด จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันและการลดความเสี่ยง เพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองเวลาเข้ารับบริการ ได้ที่

R3 Life Wellness Center 42 อาคาร ไอ ซี พี ชั้น 4 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.

ปรึกษาฟรี! กับทีมแพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยดีกรีอเมริกันบอร์ด

กรุณาให้ข้อมูล เพื่อทางเราจะรีบติดต่อกลับโดยเร็วที่สุดค่ะ

and we will get back to you soon
Cookies & Privacy

This R3 Life Wellness Center website uses cookies to personalize content and analyse traffic in order to offer you a better experience.