รู้ก่อน! เสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงมะเร็งในครอบครัว
ร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยเซลล์นับล้านล้านเซลล์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนให้ชีวิตดำเนินไป ซึ่งหากมีเซลล์ใดที่เติบโตผิดปกติ ระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ NK Cell จะเป็นด่านแรกในการตรวจจับและกำจัดเซลล์เหล่านั้น เพื่อปกป้องร่างกายจากความเสี่ยงและการติดเชื้อต่างๆ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจกับระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงข้อดีของ NK Cell ที่ช่วยยับยั้งไม่ให้เซลล์แปลกปลอมเข้ามาสร้างความเสียหายแก่ร่างกายได้
ระบบภูมิคุ้มกันคืออะไร
ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) เป็นกลไกที่ช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อทั้งจากภายนอก (เช่น ไวรัส แบคทีเรีย) และจากภายใน (เช่น เซลล์ผิดปกติ เซลล์มะเร็ง) หากภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงจากการทำงานที่ผิดปกติ หรือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่มีคุณภาพแล้ว ร่างกายจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ประเภทของระบบภูมิคุ้มกัน
หากแบ่งตามการทำงาน เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1) ภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด (Innate Immune System) มนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมระบบภูมิคุ้มกันประเภทนี้ เป็นกลุ่มเซลล์ที่จะเข้าตรวจจับและทำลายเซลล์ที่แปลกปลอมในร่างกายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทำงานไม่จำเพาะเจาะจงกับเชื้อโรคชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่ง NK Cell จัดอยู่ในกลุ่มนี้
2) ภูมิคุ้มกันที่ได้มาภายหลัง (Adaptive Immune System) เป็นระบบภูมิคุ้มกันแบบจำเพาะเจาะจงที่ร่างกายสร้างขึ้นหลังจากได้รับเชื้อ ซึ่งจะไปกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน โดยตัวอย่างของเซลล์เม็ดขาวในกลุ่มนี้ คือ B lymphocyte (B-Cells) และ T lymphocyte (T-Cells)
NK Cell คืออะไร
NK Cell คือเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดหนึ่ง (อยู่ในกลุ่มภูมิคุ้มกันแต่กำเนิด) ซึ่งมีความสำคัญมาก โดยหน้าที่ของเซลล์เม็ดเลือดขาว คือการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอม ปกติร่างกายจะมีปริมาณเม็ดเลือดขาวทุกชนิดรวมกันอยู่ที่ 4,500 - 10,000 เซลล์ต่อปริมาณเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร หากร่างกายมีปริมาณเม็ดเลือดขาวสูงหรือต่ำกว่าปกติ อาจบ่งชี้ถึงความผิดปกติหรือโรคที่กำลังเกิดขึ้นได้ เช่น หากตรวจพบว่าระดับเม็ดเลือดขาวสูงผิดปกติ แพทย์จะดูว่าเม็ดเลือดขาวนั้นเป็นชนิดใด เพราะเม็ดเลือดขาวแต่ละชนิดที่สูงขึ้น เป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโตรฟิลสูง เป็นสัญญาณการติดเชื้อแบคทีเรีย เม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟไซต์สูง เป็นสัญญาณการติดเชื้อไวรัส หรือการก่อตัวของเชื้อมะเร็ง เป็นต้น
การทำงานของ NK Cell
NK Cell คือด่านแรกในการตรวจจับและกำจัดเซลล์ที่ผิดปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้เติบโตกลายเป็นเซลล์มะเร็ง หรือในกรณีผู้ป่วยที่รักษาโรคมะเร็งอยู่ การมี NK Cell ที่มีคุณภาพ จะช่วยชะลอการแพร่กระจาย และยังมีส่วนช่วยให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เมื่อ NK Cell ตรวจจับเซลล์ที่ผิดปกติได้ จะเข้าทำลายเซลล์เหล่านั้นก่อนที่จะกลายเป็นเซลล์มะเร็ง และยังปล่อยสารโปรตีน Cytokine เพื่อเรียกเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดอื่นๆ ให้มาช่วย NK Cell กำจัดเซลล์มะเร็งออกจากร่างกายอีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้ NK Cell ในร่างกายอ่อนแอลง
ปัจจัยที่ทำให้ NK Cell ในร่างกายมีจำนวนน้อยลงและด้อยคุณภาพ เกิดจาก
- อายุที่มากขึ้น
- พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม (ขาดโภชนาการ ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่จัด พักผ่อนน้อย)
- ขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- มีภาวะเครียดสะสม เครียดเรื้อรัง
- กลุ่มผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคมะเร็ง
โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง การทำ NK Cells Therapy ถือเป็นทางเลือกที่ใช้บำบัดควบคู่กับการรักษามะเร็งได้อย่างน่าสนใจ เป็นการรักษาด้วย Immune Therapy คือใช้เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยต่อสู้กับเซลล์มะเร็งในร่างกายของผู้ป่วยเอง ด้วยวิธีการเพิ่มจำนวนและคุณภาพให้ NK Cell แข็งแรง เพื่อต่อสู้กับเชื้อมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน NK Cell มีอะไรบ้าง
วิธีการตรวจวัดระดับภูมิคุ้มกัน NK Cell คือ การเจาะเลือด เพื่อประเมิน
- NK Cell Count คือ การตรวจวัดปริมาณของ NK Cell ในร่างกาย
- NK Cell Activity คือ การตรวจวัดความสามารถในการทำงานของ NK Cell ในร่างกาย หากค่าที่ได้อยู่ในระดับต่ำ แพทย์อาจตรวจเพิ่มเติม เพื่อค้นหาว่ามีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคร้ายแรงหรือไม่ เพื่อออกแบบการรักษาที่เหมาะสมกับบุคคลนั้นๆ ต่อไป
การเพิ่ม NK Cell จะอยู่ในร่างกายนานแค่ไหน?
เมื่อรับ NK Cell เข้าสู่ร่างกายแล้ว แน่นอนว่า NK Cell จะเข้าไปต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายได้ดี แต่ก็อาจมีจำนวนลดลงได้ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพ จึงแนะนำให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
NK Cells เหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ป่วยมะเร็งทุกระยะ (ยกเว้นมะเร็งที่แพทย์วินิฉัยแล้วว่า ไม่สามารถรักษาได้)
- ผู้ที่มีคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นโรคมะเร็ง
- ผู้มีสุขภาพดี ที่ต้องการตรวจติดตามการทำงานของภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดแบบไม่จำเพาะเจาะจงของตนเอง
- ผู้ที่ป่วยบ่อย หรือมีการติดเชื้อบ่อยครั้ง
- ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนทดแทนเป็นระยะเวลานาน
- ผู้ที่สัมผัสมลพิษจากสิ่งแวดล้อมเป็นระยะเวลายาวนาน
- ผู้ที่มีสภาวะอ่อนล้าเรื้อรัง (Adrenal Fatigue)
- ผู้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตไม่สมดุล เช่น สูบบุหรี่จัด พักผ่อนน้อย เครียดสะสม ผู้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานเรื้อรัง
- ผู้ที่มีภาวะโภชนาการไม่ดี
- ผู้ที่ได้รับยาบางประเภท เช่น ยากดภูมิคุ้มกัน ยาเคมีบำบัด
- ผู้ป่วยหลังผ่าตัดที่ต้องการให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
- ผู้ที่ติดโควิดหลายครั้ง หรือผู้ที่มีอาการ Long Covid
ขั้นตอนการรับบริการ NK Cell
- ปรึกษาแพทย์ เพื่อออกแบบโปรแกรมการดูแลเฉพาะบุคคล
- แพทย์อาจพิจารณาตรวจเช็กจำนวน NK Cell Count และ/หรือ NK cell Activity ด้วยการเจาะเลือด (ไม่ต้องงดน้ำและอาหาร)
- หากพิจารณาเข้ารับบริการ จะทำการเจาะเลือดเพื่อส่งไปเพาะเซลล์เพิ่ม (ใช้เวลา 14-21 วัน)
- นัดหมายเข้ามารับเซลล์ (เหมือนการให้น้ำเกลือ) ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชั่วโมง (สามารถรับ Multivitamin ด้วยได้ แต่ไม่แนะนำให้รับพร้อม NAD+ ในรอบเดียวกัน)
ทั้งนี้ การตรวจหาผลลัพธ์ว่า NK Cell เพิ่มขึ้นเท่าไร สามารถตรวจหลังรับเซลล์แล้วประมาณ 1 - 2 เดือน โดยความถี่ในการทำ NK Cell คือ สามารถทำได้ไม่จำกัด ขึ้นอยู่กับการปรึกษาและออกแบบโปรแกรมกับแพทย์ ผู้ที่มี NK Cell ต่ำกว่าปกติ แนะนำให้ทำ NK Cell Therapy ทุก 6 เดือน – 1 ปี
NK Cell ทางหนีการกลับมาเป็นมะเร็งซ้ำ
ปัจจุบันการบำบัดควบคู่การรักษาโรคมะเร็งเริ่มเป็นที่พูดถึงกันมากขึ้น โดยเฉพาะ NK Cells Therapy ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้การรักษามะเร็งมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนี้
- ลดผลข้างเคียง จากการใช้เคมีบำบัด
- ป้องกันการกระจายตัว และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งบางชนิด
- เสริมการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะในผู้ป่วยมะเร็งระยะเริ่มต้น ให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายและการรักษา
- ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
NK Cells Therapy ทางเลือกเสริมเพื่อสู้มะเร็ง ป้องกันแต่เนิ่นๆ ก่อนสายเกินไป
โรคมะเร็งเป็นภัยเงียบที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า และหากคนที่คุณรักต้องเผชิญกับมัน คุณคงเข้าใจดีว่าการรักษาต้องแข่งกับเวลาและโอกาส NK Cells Therapy หรือการบำบัดด้วยเซลล์ภูมิคุ้มกันธรรมชาติ (Natural Killer Cells) เป็นหนึ่งในแนวทางที่สามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำของมะเร็งได้
แม้ว่าการรักษามะเร็งมาตรฐาน เช่น คีโมหรือฉายแสงจะยังคงเป็นแนวทางหลัก NK Cells Therapy สามารถใช้ร่วมกับการรักษาเหล่านั้นได้ ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น ลดผลข้างเคียง และที่สำคัญ ยังสามารถใช้กับผู้ที่ยังไม่มีโรค เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคตั้งแต่แรก
เลือก NK Cells Therapy ที่ได้มาตรฐาน ต้องเช็กอะไรบ้าง?
ไม่ใช่ทุกที่ที่ให้บริการ NK Cells Therapy จะได้มาตรฐาน แล้วจะเลือกยังไงให้มั่นใจว่าปลอดภัยและได้ผล? ให้เช็กลิสต์นี้ช่วยคุณ
- ดูแลโดยแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Anti-Aging) ที่มีประสบการณ์ พร้อมออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคล
- เลือกคลินิกที่พาร์ทเนอร์กับแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล
- ได้รับรองมาตรฐานการจัดการธนาคารชีวภาพระดับโลก เพื่อความมั่นใจในคุณภาพของการจัดเก็บเซลล์
เมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพระดับลึกอย่าง NK Cells Therapy สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่แค่การได้รับบริการเท่านั้น แต่คือ “ความปลอดภัย มาตรฐาน และความแม่นยำ” ที่ต้องมาจากคลินิกที่เชื่อถือได้ เพราะ NK Cells Therapy ต้องอาศัยทั้งความเก่งของคุณหมอและห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล
R3 Life Wellness Center เราตั้งใจดูแลสุขภาพสำหรับคุณคนพิเศษ ภายใต้ทีมแพทย์ที่พร้อมดูแลคุณอย่างใกล้ชิด พร้อมออกแบบโปรแกรมเฉพาะบุคคลในระดับ First Class และยังเป็นพาร์ทเนอร์กับห้องแล็บที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลก เช่น UK NEQAS, ISO 15189, ISO 15190, NEBB Clean Room Class 100 และ ISO Class 5 เพื่อความแม่นยำและปลอดภัยทุกขั้นตอน อีกทั้งยังเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยที่ใช้ เทคโนโลยี Flow Cytometry ตรวจวิเคราะห์เซลล์ภูมิคุ้มกัน NK Cells อย่างละเอียด พร้อมมาตรฐาน ISO 20387 ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกด้านการจัดการธนาคารชีวภาพ อุปกรณ์ทุกชิ้นผ่านการฆ่าเชื้อมาอย่างดีเพราะเราเชื่อว่า “การป้องกันดีกว่าการรักษา”
มะเร็งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณมีคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดที่กำลังต่อสู้กับโรคร้ายนี้ คุณคงเข้าใจดีว่า “สุขภาพที่แข็งแรง” คือของขวัญที่ล้ำค่าที่สุด อย่ารอให้โรคกลายเป็นคำเตือน เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วย NK Cells Therapy ที่ R3 Life Wellness Center
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองเวลาเข้ารับบริการ ได้ที่
R3 Life Wellness Center 42 อาคาร ไอ ซี พี ชั้น 4 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.
- Tel.: 0 2233 8000 , 088 689 8888
- Whatsapp: (+66) 88 689 8888
- Line OA: @r3lifewellness
- Facebook: https://www.facebook.com/r3lifewellness
- Instagram: https://www.instagram.com/r3lifewellness_official/
- Flagship Location: https://maps.app.goo.gl/b3sw5oYTtTUHSM956