ผิวใสในพริบตาหรือแค่ฝัน? รู้ทันทรีทเม้นท์หน้าก่อนตัดสินใจ!
เคยตื่นมาส่องกระจกแล้วรู้สึกว่าผิวหน้าดูหมองคล้ำ โทรม รอยดำรอยแดงเต็มหน้า จนอยากเสกผิวใหม่ในพริบตาไหม? เหตุผลที่หลายคนหันมาพึ่ง Treatment หน้าเพราะเชื่อว่าช่วยฟื้นฟูผิวได้เร็วและล้ำลึกกว่าการทาครีมธรรมดา แต่คำถามคือ มันเวิร์คจริงหรือแค่ฮิตตามเทรนด์?
ความจริงคือ ทรีทเม้นท์ไม่ใช่แค่การบำรุงธรรมดา แต่ช่วยฟื้นฟูลึกถึงชั้นผิว ผลัดเซลล์เก่า กระตุ้นคอลลาเจน เติมความชุ่มชื้นให้ผิวเด้งใสขึ้นแบบเห็นผล แล้วมันช่วยได้แค่ไหน? ทำยังไงให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด? มาหาคำตอบกัน!
ทรีทเม้นท์หน้า คืออะไร? ตัวช่วยกู้ผิวโทรมให้เป็นผิวสวย
ทรีทเม้นท์หน้า (Facial treatment) คือ กระบวนการดูแลผิวหน้าด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงสุขภาพผิว รักษาปัญหาผิว หรือเพิ่มความกระจ่างใส ด้วยการผลักสารบำรุงหรือวิตามินให้ซึมลงสู่ชั้นผิวได้ลึกและไว ทำให้เซลล์ผิวสามารถรับสารบำรุงได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแต่ละทรีทเม้นท์จะใช้เทคนิคและผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไปตามสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข
ทรีทเม้นท์หน้าช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ช่วยบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เติมความชุ่มชื้นและสารอาหารให้ผิว
- ช่วยฟื้นฟูผิวเสีย ซ่อมแซมผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดหรือมลภาวะ
- ช่วยลดปัญหาผิว เช่น สิว ฟ้า กระ จุดด่างดำ ริ้วรอย ร่องลึก
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวดูสดใส เปล่งปลั่ง
- ช่วยคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อบนใบหน้า
ทรีทเม้นท์หน้า (Facial Treatment) มีแบบไหนบ้าง?
กระแสการทำทรีทเม้นท์หน้ามาแรง นอกจากช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้อย่างเร่งด่วนแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าแต่ละแบบให้ผลลัพธ์ต่างกันขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ที่ R3 Life Wellness Center เรามีเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมสูตรครีมบำรุงที่คิดค้นมาโดยเฉพาะ รวมถึงการนวดโดยพยาบาลวิชาชีพให้คุณมั่นใจได้ว่าผิวจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด! ตัวอย่างนวัตกรรมทรีทเม้นท์หน้าที่นิยม มีดังนี้
- การผลักวิตามินเข้าผิวหน้า เป็นวิธีที่ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงช่วยผลักสารบำรุงซึมลึกสู่ผิวหน้าได้ลึกยิ่งขึ้น โดยใช้เครื่องมือโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) เป็นกระบวนการทำงานที่คล้ายกับอัลตราซาวด์ ควรทำสัปดาห์ละ 1 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ทรีทเม้นท์โดยใช้คลื่นวิทยุ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวโดยใช้คลื่นวิทยุ ทำให้ผิวหน้ากระชับ ริ้วรอยจางลง ผิวคล้ำเสียจากแดดดีขึ้น ควรทำติดต่อกัน 2-4 ครั้ง โดยแต่ละครั้งห่างกัน 1-2 สัปดาห์ นอกจากนี้วิธีทรีทเมนต์หน้าโดยคลื่นวิทยุนี้จะช่วยทำให้ใบหน้าเรียวขึ้นได้เล็กน้อยอีกด้วย
- ทรีทเม้นท์โดยใช้ครีมสูตรพิเศษ [1] ทรีตเมนต์ผลัดเซลล์ผิวโดยใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดอ่อน ๆ อย่าง AHA, BHA, Lactic Acid และ Citric Acid ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่า เผยผิวใหม่ที่ดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น พร้อมลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
สามารถทำได้ทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวได้รับการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ เนื่องจากอาจมีผลข้างเคียง และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล
- ทรีทเม้นท์โดยใช้อัลตราซาวด์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม ช่วยยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนมากขึ้น โดยคลื่นเสียงจากการอัลตราซาวด์จะเข้าไปทำความร้อนในผิวลึกประมาณ 5 มิลลิเมตร ช่วยให้ผิวหน้ากระชับ ดูอ่อนเยาว์
- ทรีทเม้นท์โดยใช้เลเซอร์ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนริ้วรอยและรอยสิว แต่มีข้อเสียที่ต้องระวัง เช่น ทำให้ผิวบางลง ไวต่อแสงแดด เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าและรอยดำหากไม่ปกป้องอย่างดี อาจทำให้ ผิวแห้ง ลอก แดง หรือระคายเคือง รวมถึงเสี่ยงต่อ การติดเชื้อและรอยแผลเป็น หากดูแลไม่ถูกต้อง อีกทั้งบางประเภทอาจต้องใช้เวลาฟื้นตัวนาน ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจทำ
ทรีทเม้นท์หน้าใสเหมาะกับใคร?
มาดู! Treatment หน้าใสเหมาะกับเราหรือเปล่า?
- คนที่มีปัญหาผิวหน้า เช่น ผิวหมองคล้ำ ผิวไม่สดใส ผิวแห้งกร้าน ผิวมีริ้วรอย ผิวมีปัญหาสิว
- คนที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง พักผ่อนไม่เพียงพอ
- คนที่ต้องการให้ผิวหน้าดีอย่างเร่งด่วน
- คนที่ทาครีมบำรุงผิวหน้าแล้วไม่เห็นผลหรือเห็นผลช้า
- คนที่ต้องการให้ผิวหน้าได้พักผ่อน
ก่อนทำทรีทเม้นท์หน้าต้องรู้อะไรบ้าง? เช็คก่อนผิวพัง!
อยากทำทรีทเม้นท์หน้าต้องเตรียมตัว เพื่อให้หน้าใสได้ประสิทธิภาพสูงสุด และเป็นการป้องกันไม่ให้ผิวพังได้ง่าย ๆ โดยการเตรียมผิวหน้าก่อนทำทรีทเม้นท์หน้าควรเตรียมตัวเป็นเวลา 4-5 วัน
- รู้จักสภาพผิวของตัวเองเป็นอย่างดี ก่อนเลือกโปรแกรมทรีทเมนต์หน้าควรหาข้อมูลว่าสภาพผิวของตัวเองเป็นแบบไหน ผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม เพื่อเลือกโปรแกรมที่เหมาะกับผิวหน้าหรือปรึกษาแพทย์ที่ R3 เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการสครับผิว เพื่อป้องกันไม่ผิวบอบบางและเกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ทำให้ใบหน้าต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานาน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าไหม้
- หลีกเลี่ยงการแวกซ์ขนบริเวณใบหน้า เพื่อป้องกันอาการแดง อักเสบ และระคายเคือง
7 ข้อดีของการทำทรีทเม้นท์หน้า เปลี่ยนผิวโทรมเป็นผิวสวย
- บำรุงผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและครอบคลุม
- บำรุงผิวด้วยสารบำรุงได้หลายตัวภายในครั้งเดียว
- สร้างความผ่อนคลายและลดความเครียดของเซลล์ผิว
- ฟื้นฟูผิวหน้าที่เสื่อมสภาพอย่างจริงจังได้
- ผิวหน้าดูกระจ่างใสและเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ
- ชะลอการเกิดริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า
- เห็นผลเร็วและชัดเจนหากเทียบกับการทาครีมบำรุงผิว
หลังทำทรีทเม้นท์หน้าดูแลยังไง? ให้ผิวใสได้ยาว ๆ
ทำทรีทเม้นท์หน้าแล้วผิวดูฉ่ำใสขึ้นทันที แต่ถ้าอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน ต้องดูแลผิวให้ถูกวิธีด้วย
- งดแต่งหน้า 24 ชั่วโมงแรก เพราะหลังทำทรีทเม้นท์หน้า รูขุมขนอาจเปิด ผิวกำลังซึมซับสารบำรุงเต็มที่ ควรพักหน้าสักวันเพื่อป้องกันการอุดตันหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรง และหลังทำทรีทเม้นท์หน้าควรทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เพราะผิวที่เพิ่งได้รับการบำรุงจะไวต่อแสง ควรใช้กันแดด SPF 50+ และทาซ้ำระหว่างวันถ้าออกแดดนาน
- สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าที่ใช้อยู่ได้ตามปกติ แต่ควร ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retin-A, กรดผลไม้ (AHA, BHA, PHA), วิตามินซีเข้มข้น และสารผลัดเซลล์ผิวเป็นเวลา 72 ชม. เพื่อป้องกันการระคายเคือง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเครื่องสำอางที่มี แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารเคมีรุนแรง เพราะอาจทำให้ผิวแพ้หรือแห้งลอกได้
- งดการสครับผิวหลังทำประมาณ 48 ชั่วโมง เพราะจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะน้ำช่วยให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ลิตร เพื่อให้ผิวอิ่มฟูสดใส
เลือกทำทรีทเม้นท์หน้าที่ไหนดี?
ทรีทเม้นท์หน้ากลายเป็นเทรนด์ฮิตของการดูแลผิวหน้าในปัจจุบัน เพราะด้วยกระบวนการบำรุงและฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกผ่านเทคนิคและนวัตกรรมทันสมัยเพื่อให้หน้ากระจ่างใสได้ทันใจ แต่ก่อนจะปักหมุดว่าจะไปทำทรีทเม้นท์หน้าที่ไหนดี ต้องเลือกโดยพิจารณาจากข้อมูลต่อไปนี้
- ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและเวชศาสตร์ฟื้นฟูที่อย่างน้อยได้รับการรับรองจากสถาบันต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ เช่น American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine (ABAARM)
- ควรมีการออกแบบโปรแกรมการรักษาเฉพาะบุคคล (Personalized Treatment) ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดของตัวคุณเอง
- มีทีมพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ในการดูแลผิวและให้บริการ จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความมั่นใจในการรับบริการ
- ควรเลือกคลินิกที่ใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ปลอดภัย และผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง เพื่อประสิทธิภาพในการทรีทเม้นท์หน้าและความปลอดภัย
- คลินิกเดินทางสะดวกได้ทั้ง BTS และ MRT พร้อมที่จอดรถสำรองพิเศษ รวมถึงห้องทรีตเมนต์ที่เป็นส่วนตัว พร้อมมีของว่าง เครื่องดื่ม ระดับพรีเมี่ยมไว้คอยให้บริการ
R3 Wellness Center คลินิกความงามและสุขภาพระดับพรีเมียมที่นำโดยแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging) พร้อมออกแบบ Personalized Treatment ที่ตรงจุดเพื่อความแม่นยำในการให้วิตามินและทรีทเม้นท์ต่าง ๆ พร้อมบริการระดับโรงแรม 6 ดาว ในบรรยากาศสุดผ่อนคลาย ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก พร้อมที่จอดรถ Exclusive เข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อนได้ เพื่อให้แพทย์ช่วยประเมินสภาพผิวและออกแบบแนวทางการดูแลผิวหน้าที่เหมาะกับคุณที่สุด เพราะที่ R3 เราใส่ใจทุกขั้นตอน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีสำหรับคุณ
chemical peel ของที่คลินิกเป็นพวก AHA, BHA, Lactic acid, Citric acid
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองเวลาเข้ารับบริการ ได้ที่
R3 Life Wellness Center 42 อาคาร ไอ ซี พี ชั้น 4 ถนนสุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.
- Tel.: 0 2233 8000 , 088 689 8888
- Whatsapp: (+66) 88 689 8888
- Line OA: @r3lifewellness
- Facebook: https://www.facebook.com/r3lifewellness
- Instagram: https://www.instagram.com/r3lifewellness_official/
- Flagship Location: https://maps.app.goo.gl/b3sw5oYTtTUHSM956